1. ภาษาอังกฤษ เริ่มใช้ในการสอบ ก.พ. ปี 2557
ยุคแรก (ก่อนปี 2557)
หลักสูตรและวิธีการสอบ ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ของสำนักงาน ก.พ. ก่อนปี 2557 ไม่ได้มีการกำหนดให้สอบวิชาภาษาอังกฤษ หมายความว่า แต่ก่อนนั้นเราสอบเพียง 2 วิชา ได้แก่
ยุคกลาง (2557-2562)
จุดเริ่มต้นของการสอบวิชาภาษาอังกฤษอยู่ที่หนังสือ “ว17/2556 การสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ” ได้กำหนดหลักสูตรและวิธีการสอบ ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ขึ้นใหม่ โดยเพิ่มวิชาภาษาอังกฤษ เข้ามาในการสอบ “ว17/2556” จึงทำให้เราต้องสอบวิชาภาษาอังกฤษนับแต่นั้นเป็นต้นมา โดยการจะเป็นผู้สอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ช่วงนี้เราก็จะสอบกันทั้งหมด 3 วิชา ได้แก่
ยุคใหม่ (2563-ปัจจุบัน)
จุดเปลี่ยนของหลักสูตร แต่ยังคงภาษาอังกฤษไว้เหมือนเดิม เมื่อมีหนังสือ “ว12/2562 การปรับหลักสูตรการสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป” กำหนดให้เราต้องสอบทั้งหมด 4 หัวข้อวิชา ได้แก่
อ่านมาถึงตรงนี้คงพอให้ทราบแล้วว่าจุดเปลี่ยนสำคัญของการนำภาษาอังกฤษมาใช้ คือ ปี 2557 ถึงแม้ว่าจะมีการปรับหลักสูตรการสอบ ภาษาอังกฤษก็ยังคงเป็นวิชาที่กำหนดให้ต้องสอบ และเชื่อว่าคงจะอยู่กับการสอบภาค ก. ตลอดไป ตามเจตนารมณ์ที่ต้องการให้ข้าราชการรุ่นใหม่ มีความพร้อมในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาระบบราชการตามสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
2. หมดยุคสอบซ่อม คะแนนข้อสอบ กพ ภาษาอังกฤษไม่ถึง 50% คือ ตก!
ข้อสอบ กพ ภาษาอังกฤษ เริ่มนำมาใช้กับการสอบภาค ก. ตั้งแต่ปี 2557 ผู้อ่านคงทราบแล้ว ช่วงแรกที่กำหนดให้สอบวิชาภาษาอังกฤษเราสามารถสอบซ่อมได้ หรือถ้ากำหนดให้ชัดลงไปอีก คือ ช่วงปี 2557 – 2561 โดยเข้าเงื่อนไขดังนี้
แต่ถ้าสอบวิชาความสามารถทั่วไปและวิชาภาษาไทยไม่ผ่านตั้งแต่แรก ก็ไม่สามารถที่จะยื่นขอสอบซ่อมได้นะ
จนมาถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 สำนักงาน ก.พ. ได้มีหนังสือ “ว3/2561 การยกเลิกการสอบซ่อมวิชาภาษาอังกฤษ” โดยให้มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป สรุปก็คือตั้งแต่ปี 2562 – ปัจจุบัน ไม่มีการสอบซ่อมวิชาภาษาอังกฤษแล้ว สอบไม่ผ่าน คือ ตก!
ตอนนี้เราจึงอยู่ในการสอบภาค ก. ของสำนักงาน ก.พ. “ยุคใหม่” ต้องสอบทั้งหมด 4 หัวข้อวิชา และต้องผ่านตามเกณฑ์ในแต่ละรายวิชาด้วย จึงจะเป็นผู้สอบผ่าน
3. ทางลัดสำหรับผู้ที่ไม่อยากสอบวิชาภาษาอังกฤษ
เพื่อไม่ให้หลงทาง…
เราต้องถามตัวเองก่อนว่าตำแหน่งที่เราจะมุ่งไปสอบในภาคความรู้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.) ได้กำหนดให้เราต้องเป็นผู้สอบผ่านภาค ก. หรือไม่
ถ้าคำตอบคือ ไม่! เราก็ไม่ต้องสอบ เช่น สอบท้องถิ่น (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น), สอบตำรวจ (กองการสอบ กองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ไม่ได้กำหนดว่าเราต้องเป็นผู้สอบผ่านภาค ก. ก่อนนะ จึงจะสมัครสอบได้
แต่ถ้าตำแหน่งนั้นได้กำหนดไว้ว่าเราต้องเป็นผู้สอบผ่านภาค ก. ก่อนนะ จึงจะสมัครสอบได้ แน่นอนเราต้องสอบภาค ก. ของสำนักงาน ก.พ. ให้ผ่าน เพื่อให้ได้หนังสือรับรองการสอบผ่านภาค ก. เช่น
ถ้าเรามุ่งมั่นที่จะเป็นข้าราชการและไม่อยากสอบวิชาภาษาอังกฤษในวันสอบภาค ก. ทางลัดก็คือเราสามารถไปสอบ TOEFL, TOEIC, IELTS, CU TEP และ TU GET โดยออกค่าใช้จ่ายเอง ถ้าสอบผ่านจะมีหนังสือรับรองให้
เมื่อสำนักงาน ก.พ. เปิดสอบ ตอนกรอกข้อมูลสมัครสอบ เราสามารถระบุว่าเป็นผู้สอบผ่าน TOEFL, TOEIC, IELTS, CU TEP หรือ TU GET แล้ว โดยสามารถยื่นคะแนนภาษาอังกฤษที่ยังไม่หมดอายุแทนการสอบภาษาอังกฤษได้ และได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของการทดสอบนั้นๆ
ลำดับที่ | การทดสอบภาษาอังกฤษ | ไม่น้อยกว่า (คะแนน) |
---|---|---|
1 | TOEFL (คะแนนเต็ม 120) | 60 |
2 | TOEIC (คะแนนเต็ม 990) | 495 |
3 | IELTS (คะแนนเต็ม 9) | 4.5 |
4 | CU TEP (คะแนนเต็ม 120) | 60 |
5 | TU GET (คะแนนเต็ม 1,000) | 500 |
ถ้าเราเลือก TOEIC
เพราะว่าสอบได้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง เท่ากับว่าคุณสามารถสอบได้เรื่อยๆ จนกว่าจะผ่าน 495 คะแนน ผ่านแล้วเอาไปยื่นสำนักงาน ก.พ. ได้เลย คะแนนTOEIC สามารถใช้ได้ถึง 2 ปี หมายความว่าคุณสามารถยื่นได้ทั้งปีที่กำลังสอบและปีหน้าได้อีกด้วย
- ศูนย์สอบกรุงเทพฯ อาคาร BB Tower ชั้นที่ 19 ห้อง 1907 ถนนอโศกมนตรี ซอยสุขุมวิท 21 กรุงเทพ 10110 โทร 02-2607061 , 02-259-3990 เดินทางได้โดยรถไฟฟ้า BTS ลงสนานีอโศก ทางออก 3, 6, รถไฟฟ้า MRT ลงสถานีสุขุมวิท ทางออก 2 หรือสถานี เพชรบุรี ทางออก 2 และรถโดยสารประจำทางสาย 38, 98, 136, 185
- ศูนย์สอบเชียงใหม่ อาคารนวรัตน์ ชั้นที่ 3 ถนนแก้วรัตน์ ซอย 3 เชียงใหม่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 053-248-208
4. สำนักงาน ก.พ. ออกข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษเรื่องอะไรบ้าง
ข้อสอบ ก.พ. วิชาภาษาอังกฤษในการสอบภาค ก. นั้น แบ่งข้อสอบออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้
4.1 Conversation (ประโยคสนทนา)
ข้อสอบในส่วนนี้จะเป็นการจำลองการสนทนาในสถานการณ์ต่างๆ ระหว่างบุคคล 2 คน และเว้นช่องว่างให้เราตอบเสมือนเป็นบุคคลในสถานการณ์สนทนานั้น ในการทำข้อสอบในส่วนนี้ให้สังเกตประโยคก่อนหน้า และประโยคในบรรทัดถัดไปว่าโดยรวมหมายความว่ายังไง จึงจะสามารถต่อประโยคสนทนาได้อย่างสมบูรณ์
4.2 Vocabulary and Expressions (คำศัพท์และสำนวน)
ข้อสอบในส่วนนี้จะมีประโยคมาให้เรา แต่เว้นช่องว่างให้เราเลือกคำศัพท์ที่ถูกต้องที่สุดเติมในช่องว่าง
4.3 Structure (โครงสร้าง)
ข้อสอบในส่วนนี้เป็นการทดสอบด้านโครงสร้างของประโยค โดยจะมีประโยคมาให้เรา แต่เว้นช่องว่างไว้ให้เราเลือกคำตอบที่ถูกหลักไวยากรณ์ที่สุดเติมในช่องว่าง แบ่งออกเป็น
- Present simple tense 1 ข้อ
- Past simple tense 1 ข้อ
- การใช้ in, on, at, to 1 ข้อ
- Conjunction (คำสันธาน = คำที่ใช้เชื่อมประโยค) 1 ข้อ
- Pronoun (คำสรรพนาม ใช้เรียกแทนชื่อคน สัตว์ หรือสิ่งของ) 1 ข้อ
4.4 Reading Comprehension (อ่านและทำความเข้าใจเนื้อเรื่อง)
ข้อสอบในส่วนนี้จะมีเนื้อเรื่องมาให้เราอ่าน ทำความเข้าใจในเนื้อเรื่อง และตอบคำถาม จะมีเนื้อเรื่องมาให้เราอ่าน โดยคำศัพท์ในส่วนนี้จะค่อนข้างยาก ทำให้เราเข้าใจเนื้อเรื่องได้ยาก ในการทำข้อสอบส่วนนี้แนะนำให้อ่านคำถามก่อน แล้วจึงมาอ่านเนื้อเรื่อง เจาะไปทีละข้อ ตัวเลือกไหนที่มีในเนื้อเรื่องมีโอกาสที่จะเป็นข้อที่ถูก ส่วนตัวเลือกไหนไม่มีในเนื้อเรื่องเลยให้ตัดทิ้งไปก่อน
5. หนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาค ก. ก่อนปี 2557 ยังใช้ได้ไหม?
หนังสือรับรองผลการสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ของ ก.พ. มิได้มีการกำหนดอายุหนังสือฯ ไว้ โดยมีผลใช้ได้ตลอดไปจนกว่า ก.พ. จะมีมติให้เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
ผู้สอบก่อนปี 2557 หนังสือรับรอง (ภาค ก.) ของ ก.พ. ยังใช้ได้ไหม? สรุปก็คือ ยังใช้ได้ปกติ และบางท่านอาจจะมองว่ามีการได้เปรียบเสียเปรียบกันหรือไม่ เพราะคนที่สอบผ่านก่อนปี 2557 เขาไม่ได้สอบวิชาภาษาอังกฤษ
เราก็ต้องย้อนกลับไป ณ ปีที่เปิดสอบโดยอิงตามหลักเกณฑ์การสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ของปีนั้นๆ เป็นหลัก
สรุป ไม่ว่าจะผ่านก่อนหรือหลังปี 2557 จะสอบตอนมีภาษาอังกฤษ หรือไม่มี หนังสือรับรองภาค ก. ก็มีศักดิ์และสิทธิ์เท่ากัน